แบบทดสอบท้ายบท หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
1. อธิบายภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญๆ ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ดำเนินงานเกี่ยวกับการรวบรวมจัดเก็บและให้บริการสื่อการเรียนการสอน
ข้อสนเทศ ให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีการศึกษาและเอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ
เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมทางการศึกษาในทุกรูปแบบ ทั้งนี้เพื่ เป็นการพัฒนามาตรฐานทางการศึกษา และมาตรฐานของหน่วยงานที่ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สังกัดอยู่
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ดำเนินงานเกี่ยวกับการรวบรวมจัดเก็บและให้บริการสื่อการเรียนการสอน
ข้อสนเทศ ให้คำปรึกษา แนะนำ เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์เทคโนโลยีการศึกษาและเอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ
เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนและกิจกรรมทางการศึกษาในทุกรูปแบบ ทั้งนี้เพื่ เป็นการพัฒนามาตรฐานทางการศึกษา และมาตรฐานของหน่วยงานที่ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สังกัดอยู่
บทบาทหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ส่วนใหญ่มีหน้าที่ในการจัดหา จัดสร้างดำเนินงาน
บริการด้านสื่อการเรียนการสอน ข้อสนเทศความรู้วิทยากร และนวัตกรรมต่างๆ อันเป็นผลผลิตของ
เทคโนโลยีทางการศึกษาสมัยใหม่ โดยจะต้องรวบรวมจัดหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการค้นหา
จัดให้บริการยืม อีกทั้งจะต้องบำรุงรักษาซ่อมแซมวัสดุการศึกษาดังกล่าวให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมต่อ
การใช้สอยได้ตลอกเวลา ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่เข้าใจ หรือผู้ให้บริการมีข้อปัญหาซักถามในด้านความรู้
ข้อสนเทศหรือปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาหารือ
เพื่อสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมความรู้ให้แก่บุคลากรต่างๆภายในหรือภายนอกสถานศึกษาด้วย
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้เป็นหน่วยงานกลางมีหน้าที่บริการสื่อการเรียนการสอนแก่ครูอาจารย์
นักเรียน การบริการนับได้ว่าเป็นหัวใจของงานในหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ซึ่งงานบริการนี้
ส่วนใหญ่จะควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่นๆด้วย
บริการด้านสื่อการเรียนการสอน ข้อสนเทศความรู้วิทยากร และนวัตกรรมต่างๆ อันเป็นผลผลิตของ
เทคโนโลยีทางการศึกษาสมัยใหม่ โดยจะต้องรวบรวมจัดหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการค้นหา
จัดให้บริการยืม อีกทั้งจะต้องบำรุงรักษาซ่อมแซมวัสดุการศึกษาดังกล่าวให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมต่อ
การใช้สอยได้ตลอกเวลา ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่เข้าใจ หรือผู้ให้บริการมีข้อปัญหาซักถามในด้านความรู้
ข้อสนเทศหรือปัญหาทางเทคนิคต่างๆ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาหารือ
เพื่อสร้างความเข้าใจ ส่งเสริมความรู้ให้แก่บุคลากรต่างๆภายในหรือภายนอกสถานศึกษาด้วย
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้เป็นหน่วยงานกลางมีหน้าที่บริการสื่อการเรียนการสอนแก่ครูอาจารย์
นักเรียน การบริการนับได้ว่าเป็นหัวใจของงานในหน้าที่ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ซึ่งงานบริการนี้
ส่วนใหญ่จะควบคู่ไปกับกิจกรรมอื่นๆด้วย
2. ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้จะประกอบด้วยบุคคลด้านใดบ้าง
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ประกอบด้วยบุคคล 5 ด้านดังนี้
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ประกอบด้วยบุคคล 5 ด้านดังนี้
1) ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำ
การจัดดำเนินงาน การจัดบุคลากร การนิเทศ การติดต่อประสานงาน การทำงบประมาณ
การกำหนดมาตรฐานของงาน เพื่อให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
2)ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ที่นำโครงการต่างๆออกสู่
กลุ่มเป้าหมาย เช่น บริการด้านการจัดหาสื่อ บริการด้านการใช้สื่อ ด้านการบำรุงรักษา ด้านการให้คำปรึกษา
ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องปฏิบัติการเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นต้น ซึ่งแนวทางในการกำหนดภารกิจ
ด้านบริการควรสะท้อนปรัชญาที่ยึดความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก
3)ด้านวิชาการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า
พัฒนาและเผยแพร่ผลงาน สร้างนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับการผลิตและการใช้สื่อจัดการฝึกอบรม
การเผยแพร่ความรู้ การประเมินคุณภาพสื่อ การประเมินการบริการ เป็นต้น
พัฒนาและเผยแพร่ผลงาน สร้างนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับการผลิตและการใช้สื่อจัดการฝึกอบรม
การเผยแพร่ความรู้ การประเมินคุณภาพสื่อ การประเมินการบริการ เป็นต้น
4.)ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบ
ต่อการศึกษาเป็นสำคัญในการจัดหาสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและ
เนื้อหาแต่ละวิชาตามความจำเป็นให้เพียงพอและยังมีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือแก่ครูอาจารย์
ในด้านต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษา
ต่อการศึกษาเป็นสำคัญในการจัดหาสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและ
เนื้อหาแต่ละวิชาตามความจำเป็นให้เพียงพอและยังมีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือแก่ครูอาจารย์
ในด้านต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษา
5) ด้านกิจกรรมอื่น เช่น มีบทบาทหน้าที่ประชาสัมพันธ์สถาบันต่อชุมชนจัดนิทรรศการหรือ
จัดการแสดงความก้าวหน้าต่างๆ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ควรมีกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่สังคมและ
จัดแสดงสาธิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับผู้สนใจ การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ถือว่า
เป็นการประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่ง
จัดการแสดงความก้าวหน้าต่างๆ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ควรมีกิจกรรมเพื่อให้ความรู้แก่สังคมและ
จัดแสดงสาธิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับผู้สนใจ การจัดกิจกรรมลักษณะนี้ถือว่า
เป็นการประชาสัมพันธ์อย่างหนึ่ง
3. ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภทที่สำคัญได้กี่ประเภท
ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1) บุคลากรทางวิชาชีพ (Professional Staff) ได้แก่ บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและ
ประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือโสตทัศนศึกษาระดับปริญญาซึ่งถือว่าเป็น
ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ (Media Specialists) หรือบางที่อาจเรียกว่านักวิชาการการโสตทัศนศึกษาก็ได้
ส่วนใหญ่บุคลากรกลุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารอำนวยการประสานเกี่ยวกับสื่อ
และอำนวยการให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ประสบการณ์ทางด้านเทคโนโลยีทางการศึกษาหรือโสตทัศนศึกษาระดับปริญญาซึ่งถือว่าเป็น
ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ (Media Specialists) หรือบางที่อาจเรียกว่านักวิชาการการโสตทัศนศึกษาก็ได้
ส่วนใหญ่บุคลากรกลุ่มนี้จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารอำนวยการประสานเกี่ยวกับสื่อ
และอำนวยการให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
2) บุคลากรกึ่งวิชาชีพ (Paraprofessional Staff) บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ
โดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ
โดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ
3) บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ (Non-professional Staff) บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งจะมีคุณวุฒิหลากหลายจะใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจำนวนบุคคลในแต่ละประเภทจะมีมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย
ขนาดหรือปริมาณของงาน ขอบเขตของการให้บริการ ลักษณะของระบบงานบริการจำนวนผู้ใช้บริการ
และงบประมาณของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละแห่งเป็นสำคัญ
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งจะมีคุณวุฒิหลากหลายจะใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจำนวนบุคคลในแต่ละประเภทจะมีมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย
ขนาดหรือปริมาณของงาน ขอบเขตของการให้บริการ ลักษณะของระบบงานบริการจำนวนผู้ใช้บริการ
และงบประมาณของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละแห่งเป็นสำคัญ
4. ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอนมาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร จงอธิบาย
การจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการภายในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สามารถแบ่งออก
เป็นขั้นตอนดังนี้
เป็นขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่1เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้น
เป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา ได้แก่
เป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา ได้แก่
1) การสำรวจสื่อวัสดุ (Materials) การสำรวจสื่อวัสดุมีรายการที่ต้องการทราบ คือ
- ชนิดของวัสดุ
- ชื่อเรื่อง
- แหล่งที่เก็บ (Location)
- แหล่งที่ได้มา
- สภาพการใช้งานปัจจุบัน
2) การสำรวจเครื่องมือ (Equipments)
- ชนิดของเครื่องมือ
- แบบ/รุ่น
- แหล่งที่เก็บ
- แหล่งที่ได้มา
- จำนวน
- สภาพการใช้งานปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างใน
การทำกิจกรรมเพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอ
แล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
การทำกิจกรรมเพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอ
แล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ
โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นก่อนการจัดหาหรือ
จัดซื้อสื่อมาไว้บริการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจและศึกษาความต้องการของผู้ใช้ก่อนเสมอ
การสำรวจความต้องการใช้สื่อในการเรียนการสอนสามารถทำได้หลายลักษณะ ได้แก่
โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นก่อนการจัดหาหรือ
จัดซื้อสื่อมาไว้บริการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจและศึกษาความต้องการของผู้ใช้ก่อนเสมอ
การสำรวจความต้องการใช้สื่อในการเรียนการสอนสามารถทำได้หลายลักษณะ ได้แก่
1) การสัมภาษณ์ ซักถามเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มย่อย
2) การสังเกต เป็นวิธีหนึ่งที่ผู้ต้องการข้อมูลสามารถนามาใช้เพื่อเก็บข้อมูลโดยดูจากพฤติกรรมการ
ใช้สื่อที่มีมาแต่เดิม
ใช้สื่อที่มีมาแต่เดิม
3) การใช้แบบสอบถาม เป็นการสำรวจที่ได้รายละเอียดมากกว่าแบบอื่นๆ
ขั้นตอนที่4 เป็นขั้นการจัดหาโดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆหรือ
โครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไปในการจัดซื้อผู้เกี่ยวข้อง
ต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญของผู้ใช้โดยจัดซื้อเฉพาะสื่อที่มีคุณภาพประหยัดงบประมาณ
ก่อนจัดซื้อสื่ออะไรมาไว้บริการจะต้องมีการประเมินค่าสื่อนั้นโดยคณะกรรมการประเมินค่าสื่อ
เพื่อพิจารณาว่าสื่อหรือวัสดุอุปกรณ์มีคุณค่าต่อการเรียนการสอนมากน้อยเพียงไร
มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรเพื่อให้การจัดซื้อจัดหาสื่อมาไว้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
โครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไปในการจัดซื้อผู้เกี่ยวข้อง
ต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญของผู้ใช้โดยจัดซื้อเฉพาะสื่อที่มีคุณภาพประหยัดงบประมาณ
ก่อนจัดซื้อสื่ออะไรมาไว้บริการจะต้องมีการประเมินค่าสื่อนั้นโดยคณะกรรมการประเมินค่าสื่อ
เพื่อพิจารณาว่าสื่อหรือวัสดุอุปกรณ์มีคุณค่าต่อการเรียนการสอนมากน้อยเพียงไร
มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรเพื่อให้การจัดซื้อจัดหาสื่อมาไว้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
5.อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญอะไรบ้าง
วิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ มีหลักเกณฑ์สำคัญ ดังนี้
1) ความคงทน (Ruggedness) โดยพิจารณาถึงวัสดุที่ประกอบเป็นตัวเครื่องให้ความคงทนแข็งแรง
ไม่แตกหักง่าย
ไม่แตกหักง่าย
2) ความสะดวกในการใช้งาน (Ease of Operation) โดยพิจารณาถึงการควบคุม การบังคับกลไก
ไม่ซับซ้อนจนเกินไปหรือมีปุ่มต่างๆมากมายเกินไป
ไม่ซับซ้อนจนเกินไปหรือมีปุ่มต่างๆมากมายเกินไป
3) ความกะทัดรัด (Portability) โดยพิจารณาถึงขนาดของตัวเครื่อง น้ำหนัก ความสะดวกในการเก็บ
และเคลื่อนย้าย
และเคลื่อนย้าย
4) คุณภาพของเครื่อง (Quality of Peration) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานที่ประกอบรวมกัน
เป็นไปตามคุณสมบัติต้องการใช้งานเพียงใด
เป็นไปตามคุณสมบัติต้องการใช้งานเพียงใด
5) การออกแบบ (Design) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ว่าสวยงามมีความทันสมัย
การติดตั้งอุปกรณ์ประกอบออกแบบให้ใช้ได้ง่าย
การติดตั้งอุปกรณ์ประกอบออกแบบให้ใช้ได้ง่าย
6) ความปลอดภัย (Safety) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ง่ายขณะใช้งาน
7) ความสะดวกในการบำรุงรักษาละซ่อมแซม (Ease of Maitenance and Repair) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนประกอบใด
ที่ยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือมีความยากลำบากในการดูแลรักษาหรือมีส่วนประกอบที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง
เมื่อชำรุดแล้วไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย
ที่ยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือมีความยากลำบากในการดูแลรักษาหรือมีส่วนประกอบที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง
เมื่อชำรุดแล้วไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย
8) ราคา (Cost) ในการจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์มาใช้หรือเพื่อบริการควรคำนึงถึงราคาซึ่งไม่แพงเกินไป
ที่สำคัญพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้วจึงนำไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมกับราคาและคุณภาพของเครื่องมืออุปกรณ์นั้น
ที่สำคัญพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้วจึงนำไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมกับราคาและคุณภาพของเครื่องมืออุปกรณ์นั้น
9) ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิต (Reputation of Manufacturer) การพิจารณาบริษัทผู้ผลิตเพื่อจะได้ทราบว่าวัสดุอุปกรณ์
ที่ซื้อนั้นมีจำนวนและรุ่นที่ผลิตออกมามากน้อยพียงใด หากเป็นบริษัทที่มั่นคงมีชื่อเสียงจะเห็นได้ว่ามีระบบการผลิต
ระบบการจัดการอื่นๆที่ได้มาตรฐาน ทำให้วัสดุอุปกรณ์มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
ที่ซื้อนั้นมีจำนวนและรุ่นที่ผลิตออกมามากน้อยพียงใด หากเป็นบริษัทที่มั่นคงมีชื่อเสียงจะเห็นได้ว่ามีระบบการผลิต
ระบบการจัดการอื่นๆที่ได้มาตรฐาน ทำให้วัสดุอุปกรณ์มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
10) การบริการซ่อมแซม (Available Service) อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆควรเป็นแบบที่สามารถซ่อมแซมได้ง่าย
รวดเร็วและมีบริการดูแลบำรุงรักษาที่เอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอและมีอะไหล่สำรองไว้เพียงพอ
หรือเมื่อมีปัญหาทางบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้รวดเร็ว
รวดเร็วและมีบริการดูแลบำรุงรักษาที่เอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอและมีอะไหล่สำรองไว้เพียงพอ
หรือเมื่อมีปัญหาทางบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้รวดเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น